มาตรฐาน OEKO-TEX เป็นระบบการทดสอบและให้การรับรองจากสถาบันที่เป็นอิสระสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากผู้ผลิตทั้งหลายภายในห่วงโซ่มูลค่าของสิ่งทอ (textile value chain)
วัตถุประสงค์คือเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์ผ้าและสิ่งทอดที่ได้รับการรับรองด้วยป้ายสัญลักษณ์ ‘Confidence in Textiles’ ได้ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการมาแล้ว ผ้าและสิ่งทอที่มีป้ายสัญลักษณ์นี้ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่มีอันตรายจากสารตกค้างที่เป็นพิษ (harmful substances)
Confidence in Textiles: เป็นป้ายสัญลักษณ์ของมาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 ข้อมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นมาตรฐานทองคำสำหรับการทดสอบผ้าและสิ่งทอที่เป็นเอกเทศเกี่ยวกับสารอันตราย (harmful substances)
รายการการทดสอบฉลากสากลตามมาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 อยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้และทบทวนใหม่ในทุกปีตามกฎหมายและงานวิจัยล่าสุด รวมถึงรายการดังต่อไปนี้
สิ่งทอเชิงนิเวศ (Textiles ecology) ประกอบด้วย 4 ส่วน
1. การผลิตเชิงนิเวศ
ทดสอบผลกระทบของกระบวนการผลิตที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เช่น อาชีวอนามัยและความปลอดภัย วัสดุ น้ำ และการใช้พลังงาน น้ำทิ้งและการบำบัดของเสีย รวมทั้งการก่อให้เกิดฝุ่นและเสียงรบกวน
2. มนุษยนิเวศวิทยา
มนุษยนิเวศวิทยา เกี่ยวข้องกับผลกระทบของสิ่งทอและส่วนประกอบทางเคมีของพวกมันที่มีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์
3. ประสิทธิภาพเชิงนิเวศ
ประสิทธิภาพเชิงนิเวศ อยู่ในขั้นตอนการใช้งานของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ มันเป็นการทดสอบเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการซักล้าง การทำความสะอาด และการดูแลรักษาสิ่งทอ
4. การจัดการเชิงนิเวศ
ตรวจสอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ การนำมาใช้ใหม่ การแปรรูปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ และการกำจัด (แปรรูปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่หรือฝังกลบ) เกี่ยวกับสิ่งทอ
ผลิตภัณฑ์สิ่งทออาจได้รับการรับรองตาม OEKO-TEX Standard 100 หากองค์ประกอบทั้งหมดเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้โดยไม่มีข้อยกเว้น
การรับรองดำเนินการตามใบสมัครที่เป็นลายลักษณ์อักษรของบริษัทผู้ผลิตที่ส่งไปยังหนึ่งในสถาบันทดสอบที่ได้รับมอบหมายหรือสำนักงานที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการทั่วโลก สิ่งทอตัวอย่างที่ได้ส่งมอบจะได้รับการทดสอบอย่างเฉพาะเจาะจงที่สถาบันซึ่งเป็นสมาชิกในยุโรปและญี่ปุ่น
สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก่อนได้รับหนังสือรับรอง ก็คือการจัดทำใบรับรอง (Declaration of Conformity) โดยบริษัทผู้ผลิต เพื่อแสดงว่าตัวอย่างสิ่งทอที่ได้รับการทดสอบสำเร็จลุล่วงนั้นสอดคล้องกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต หรือจัดจำหน่ายตลอด 12 เดือนตามระยะเวลาที่ได้รับใบอนุญาต
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำก่อนได้รับหนังสือรับรอง ก็คือการตรวจสอบบัญชีของบริษัทโดยผู้ตรวจบัญชีจากสถาบันทดสอบของ OEKO-TEX พร้อมกับการสมัครของบริษัทเพื่อทดสอบความน่าเชื่อถือในคุณภาพและกระบวนการการผลิตของบริษัท เพื่อสร้างความเป็นไปได้ให้มากที่สุดสำหรับการได้รับหนังสือรับรองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้านมนุษยนิเวศวิทยาสำหรับความต่อเนื่องในการรับรอง
การรับรองของ OEKO-TEX ยังรวมถึงการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์โดยทั่วไปซึ่งเป็นส่วนตายตัวของระบบ สิ่งเหล่านี้ทำให้บรรลุผลสำเร็จในตลาดโดยสถาบัน OEKO-TEX เพื่อรับรองว่าเป็นไปตามเกณฑ์กำหนดทุกประการ
Labotex เป็นสถานบันที่ให้การรับรอง ISO ที่เป็นอิสระในประเทศเบลเยียมเพื่อให้บริการกับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านด้วยสิ่งทอ หมายความว่าการทดสอบใดๆ ซึ่งดำเนินการที่ Labotex จะได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐาน ISO
Labotex เชื่อว่าความเข้าใจที่ลึกซึ้งตามหลักวิทยาศาสตร์ในด้านประสิทธิภาพและลักษณะของสิ่งทอเพียงเท่านั้นที่จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่องได้ ไม่ว่าตลาดของคุณจะอยู่ในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ หรือระดับสากล Labotex จะทำการทดสอบสิ่งทอให้กับคุณเพื่อช่วยให้คุณสร้างความมั่นใจว่าสิ่งทอของคุณนั้นดีที่สุดสำหรับพวกเขา
Labotex ดำเนินการทดสอบทางเทคนิคที่มีความหลากหลาย (รวมถึงการทดสอบ Martindale และ Wyzenbeek) ด้วยมาตฐานที่มีความเข้มงวดโดยองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำ มาตรฐานเหล่านี้รวมถึง
ทั้งการทดสอบ Martindale (สากล) และ Wyzenbeek (อเมริกา) ประเมินความทนทานของสิ่งทอต่อรอยขีดข่วน (การลาก การครูด การสึกหรอ และการเช็ดถู) ทั้งสองวิธีการนี้ใช้เพื่อบอกล่วงหน้าถึงความทนทาน ประสิทธิภาพที่แท้จริงพิจารณาด้วยหลากหลายปัจจัย รวมถึง
อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าสิ่งทอที่ได้คะแนน 30,000 Wyzenbeek แล้วจะได้คะแนน 40,000 Martindale อย่างแน่นอน เพราะนั่นมักจะเป็นการคาดคะเนที่ผิดพลาด Martindale สามารถมีคะแนนที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า ท่านจะต้องทดสอบมันเพื่อได้คะแนนที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น การใช้งาน Heavy Duty คุณอาจได้สองเท่าของ 30,000 สำหรับวิธีการ Wyzenbeek หรือ 40,000 รอบของวิธีการ Martindale